เทคนิคการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์

ข่าวเกี่ยวกับรถ

แบตเตอรี่รถยนต์ จัดเป็นอุปกรณ์หนึ่งของตัวรถที่มีความสำคัญ เพราะมันทำหน้าที่เป็นตัวสำรองไฟฟ้า โดยอาจจะส่งผลแก่ เครื่องยนต์ , ระบบไฟ ในตัวรถ ดังนั้นคุณจึงไม่ควรมองข้ามความสำคัญของมันโดยเด็ดขาด ถ้าคุณไม่ดูแลรักษาให้ดี มันก็อาจจะส่งผลเสียหลายอย่าง เช่น กระจกอัตโนมัติไม่ทำงาน , ไฟหน้าไม่สว่าง หรือสตาร์ทรถไม่ติด แต่หลายคนก็ชอบคิดว่าการดูแลรักษา จะต้องนำเข้าอู่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ความจริงแล้วการดูแลด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแต่คุณต้องรู้วิธีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีเท่านั้นเอง ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการดูแลรถยนต์ ด้วยตัวเองกันค่ะ

เทคนิคการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ให้ดีอยู่เสมอ
  • ตรวจสอบสภาพภายนอกของแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เช่น ดูว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่
  • ดูแลรักษา ไม่ให้มันเกิดคราบขี้เกลือขึ้น ถ้าเกิดคราบขี้เกลือ ก็ให้กำจัดโดยการนำผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดมันก็จะออกโดยง่าย รวมทั้งหมั่นตรวจสภาพระดับน้ำกลั่นทุกอาทิตย์
  • ตรวจเช็คระบบไฟชาร์จของ Alternator ว่าระบบชาร์จต่ำ – สูงเกินไปไหม
  • ถ้าอากาศเย็น การกระจายน้ำกรดกับน้ำกลั่นจะลดต่ำลง ไม่อาจกระจายตัวดีเหมือนเคย ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการดูแลรักษาแบตรถยนต์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟกำลังมาก ในตอนที่อากาศเย็น
  • ดูแลรักษาด้วยการเติมน้ำกลั่น ให้มีความพอดีตามระดับที่กำหนด ไม่ควรเติมสูงเกินหรือต่ำตามเส้นกำหนดเกินไป เพื่อป้องกันขี้เกลือขึ้นเร็ว อันเป็นสาเหตุทำให้สกปรก
  • การดูแลรักษาแบตรถยนต์ให้มีอายุยืนนาน ควรหมั่นศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่จะนำมาติดตั้ง เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับกับกระแสไฟ ของวงจรไฟฟ้า

เมื่อคุณหมั่นดูแลรักษาแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอแล้ว มันก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ให้นานมากขึ้น และไม่มีปัญหาเวลาสตาร์ทรถ อีกทั้งยังทำให้กระแสไฟกระจายตัวได้ดีขึ้น แต่ถ้าคุณไม่ได้ดูแลรักษา ตามคำแนะนำที่กล่าวไว้ข้างต้น เมื่อคุณใช้งานไปได้ประมาณ 1 ปี โดยไม่มีการดูแลเลยแม้แต่น้อยก็จะเริ่มเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณสามารถดูได้จากข้อสังเกตง่ายๆ ดังนี้

  • เครื่องยนต์สตาร์ทติดยากขึ้น
  • ไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง
  • กระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง
  • ระบบไฟฟ้าแสดงอาการผิดปกติ

โดยอาการทั้งหมดนี้คอยเตือนว่า รถยนต์ของคุณเริ่มเสื่อมลงแล้ว เพราะการไม่ดูแลรักษา จะทำให้มันเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ วิธีแก้ไขคือการเปลี่ยนลูกใหม่เท่านั้น ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่บ่อยๆ ก็ควรมาใส่ใจดูแลรักษา เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างขับรถ อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในกระเป๋าด้วย

Comments are closed.